ทำไม “ผู้หญิงในค่ายกักกันนาซี” หยุดมีประจำเดือน?

ทำไม “ผู้หญิงในค่ายกักกันนาซี” หยุดมีประจำเดือน? การหยุดชะงักของประจำเดือนอย่างกะทันหัน (amenorrhea) ที่ผู้ต้องขังในค่ายกักกันนาซีเคยประสบมาในอดีต เป็นผลมาจากการบาดเจ็บและการขาดสารอาหาร แม้ว่างานวิจัยใหม่จะวาดภาพให้มืดลงมากก็ตาม จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรและการสัมภาษณ์ ผู้รอดชีวิตจากการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้เขียนศึกษาพบหลักฐานว่ามีการใช้สเตียรอยด์สังเคราะห์ในอาหารที่มอบให้แก่นักโทษหญิงชาวยิวเพื่อขัดขวางการเจริญพันธุ์

นักวิจัยเขียนว่า “ทันทีที่มาถึงค่ายกักกัน ผู้หญิงมากกว่า 98 เปอร์เซ็นต์หยุดมีประจำเดือน” เพ็กกี้ เจ. ไคลน์พลัทซ์ ผู้เขียนศึกษา กล่าวถึงสถิติที่น่าทึ่งนี้ในแถลงการณ์ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและสม่ำเสมอเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความเครียดหรือความอดอยาก

“ในการสังหารหมู่ที่น่าสยดสยองอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ การเริ่มมีประจำเดือนอย่างกะทันหันนี้ไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ร่วมกับความอดอยากและการบาดเจ็บในช่วง 12 ถึง 18 เดือน” เธอกล่าว “ดังนั้น คำถามของฉันคือ เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงเหล่านี้ในค่ายมรณะที่มีลักษณะเฉพาะ ทำให้มันเกิดขึ้นทันที และไม่สามารถอธิบายได้อย่างเต็มที่ด้วยสมมติฐานของความบอบช้ำทางจิตใจ หรือภาวะทุพโภชนาการ หรือทั้งสองอย่าง? ฉันเริ่มตรวจสอบว่ามีความพยายามโดยเจตนาเพื่อทำให้มีประจำเดือนในสตรีชาวยิวเหล่านี้หรือไม่”

หลังจากได้ยินคำให้การของผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 93 คน โดยมีอายุเฉลี่ย 92 ปี นักวิจัยพบว่ามีเพียงสองคนเท่านั้นที่มีอาการหมดประจำเดือนเมื่อพวกเขามาถึงค่าย “ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ไม่หยุดมีประจำเดือนอ้างว่าตรวจพบบางสิ่งที่เติมลงในซุปในบางโอกาสและปฏิเสธที่จะกินในโอกาสนั้น” พวกเขาเปิดเผย

ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งบังเอิญมีประจำเดือนในวันที่เธอมาถึงกล่าวว่าเธอถูกบังคับให้กลืนยาที่ทำให้ประจำเดือนหมด รายงานนี้ได้รับการยืนยันโดยผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ที่กล่าวว่าพวกเขาเห็นผู้หญิงถูก “ดึงออกจากแถวเพื่อซื้อยาหรือฉีดยา ทำให้ผู้หญิงหยุดมีประจำเดือน”